งานอดิเรก ทำนอกเวลางาน ถือว่าสำคัญมากต่อชีวิตประจำวันของเรา เพราะนอกจากจะได้ผ่อนคลาย ทำสิ่งที่ชอบ มันยังเป็นการฝึกฝนทักษะบางอย่างให้เพิ่มพูน และยังสามารถนำไปต่อยอดเป็นอาชีพในอนาคตได้อีกด้วย ซึ่งถึงแม้บางคนอาจจะไม่รู้ว่า งานอดิเรก คืออะไร ขอแค่ได้ทำอะไรบางอย่าง ก็เรียกได้ว่าเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ได้เช่นกัน
ไม่ว่าเวลาว่างของคุณจะทำอะไร ก็ทำไปเถอะ แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่า จะทำอะไรเป็น งานอดิเรก ดี และอยากให้มันส่งผลต่อพัฒนาการด้านสติปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ด้วย SGEPRINT จะมาแนะนำตัวอย่างให้ดูกัน ส่วนจะมีอะไร แล้วใครกำลังทำอยู่แล้วบ้าง มาดูกันเลย1. อ่านหนังสือ
การอ่านหนังสือ เสริมสร้างสติปัญญาอยู่แล้ว ใครที่ชอบอ่าน จึงถือว่าได้เปรียบ ยิ่งตอนนี้ ความรู้นั้นไม่ได้จำกัดอยู่ที่แค่หน้ากระดาษในหนังสือ หากแต่ยังมีในสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นบล็อก แฟนเพจใน Facebook หรือ E-book ต่าง ๆ เข้ามาให้เห็นกันทุกวัน ทำให้ไม่ต้องเก็บเงินเพื่อซื้อหนังสืออีกต่อไป แต่สามารถเสิรช์ ค้นหาเรื่องราวที่น่าสนใจได้ทันที แถมบางครั้งก็มีกูรูในด้านต่าง ๆ เข้ามาแชร์ความรู้ แบบที่ไม่สามารถหาอ่านได้จากที่ไหน ให้ได้เรียนรู้กันอีกด้วย หากมีเวลาว่างพอเล่นมือถือแล้ว ก็อย่าลืมอ่านเรื่องราวที่น่าสนใจเหล่านี้ ประดับความรู้ติดตัวไว้ด้วยล่ะ
2. เรียนออนไลน์
เดี๋ยวนี้การเรียนรู้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน และมีเวลาจำกัดแค่ 8 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น เท่านั้น เพราะเดี๋ยวนี้ คอร์สเรียนรู้วิชาต่าง ๆ แทบจะถูกอัปโหลดขึ้นผ่านอินเตอร์เน็ตทั้งหมด ทำให้สามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา จึงไม่ต้องห่วงว่าทำงานแล้วจะไม่มีเวลาเรียน หรือแก่เกินเรียนแล้วหรือไม่ นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกเรียนเฉพาะวิชาที่น่าสนใจ เอาไว้ต่อยอดเป็นงานอดิเรกอื่น ๆ ได้อีก ทั้งงานด้านฝีมือ ปั้นหม้อ ทำอาหาร วาดรูป ไปจนถึงเรื่องวิชาการอย่างเช่น การเงินการลงทุน การเรียนรู้ด้านภาษา หรือแม้แต่ทักษะเพื่อเพิ่มรายได้เช่น การตลาดออนไลน์ การขายของออนไลน์ ก็ล้วนมีให้เรียนรู้ รับรองได้ว่า หากคุณแบ่งเวลาไปเรียนออนไลน์ มีแต่จะเก่งขึ้น ฉลาดขึ้น และรวยขึ้นแน่นอน
3. งานฝีมือ
งานฝีมือ นอกจากต้องอาศัยความประณีตและทักษะในการใช้เครื่องมือ ยังต้องอาศัยการจัดเรียงลำดับความสำคัญ และการวางแผนขั้นตอนการดำเนินงานที่รัดกุม ถึงจะสำเร็จได้ มันจึงไม่ได้พัฒนาแค่ความเชี่ยวชาญในการสร้างผลงานชิ้นใดชิ้นหนึ่ง หากแต่ยังช่วยพัฒนาสมอง ให้สามารถเรียงลำดับขั้นตอนการดำเนินงานอย่างเป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพ มีความอดทน อดกลั้น และเพียรพยายามในการประดิษฐ์ชิ้นงานออกมาด้วย นอกจากนั้น ยังทำให้เราสามารถพึ่งพาตัวเอง สร้างสิ่งของไว้ใช้ โดยไม่ต้องใช้เงินซื้อ ช่วยให้ประหยัดขึ้นอีกทางหนึ่ง ซึ่งงานฝีมือก็เช่น งานช่างไม้ ช่างยนต์ ช่างปั้นหม้อเป็นต้น
4. เล่นดนตรี
นอกจากเพื่อความเพลิดเพลินด้านอารมณ์และได้ร้องเพลง เล่นเครื่องดนตรีตามศิลปินที่ตนเองชื่นชอบ การเล่นดนตรียังช่วยเพิ่มสติปัญญาในการจดจำและความคล่องแคล่วว่องไวของกล้ามเนื้อสมอง เพราะเพลงมีหลายคอร์ด หลายทำนอง จึงต้องจดจำให้แม่นยำ พร้อม ๆ กับที่ต้องใช้อวัยวะส่วนอื่น ไม่ว่าจะนิ้วมือและปาก ในการเล่นและขับร้อง ควบคู่กันไป การเล่นดนตรี จึงไม่ใช่เรื่องง่าย และมันก็กลายเป็นงานอดิเรกหนึ่งที่ช่วยพัฒนาสมอง และก็ช่วยผ่อนคลายในขณะเดียวกัน
5. เล่นกีฬา
หลาย ๆ คนเห็นว่า การเล่นกีฬา เป็นกิจกรรมเพื่อลดน้ำหนัก แต่รู้หรือไม่ว่าบางคนก็เล่นเพื่อความเพลิดเพลิน แต่ไม่ว่าด้วยจุดประสงค์อะไร ก็ล้วนทำให้ร่างกายเราแข็งแรง และห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บได้ดีกว่าอะไรทั้งหมด แต่อีกสิ่งหนึ่งที่จะได้ นั่นก็คือ สมองของเราก็จะถูกพัฒนาด้วย เพราะการเล่นกีฬา นอกจากจะใช้พละกำลังและความสามารถแล้ว หลายประเภทยังต้องใช้ความว่องไว และความคิดในการเอาชนะอีกด้วย ไม่ว่าจะเล่นในรูปแบบของทีม หรือเล่นคนเดียวก็ตาม การเล่นกีฬา จึงให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด
6. เล่นเกม
เล่นเกม ใครว่าไร้สาระ เพราะหลายงานวิจัย บอกว่า ช่วยพัฒนาสมองและสร้างไหวพริบ ให้กับมนุษย์ เพราะในเกมก็จะมีอุปสรรคและปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นในแต่ละด่าน ทำให้ผู้เล่นจะต้องคิดหาวิธี แก้ไขปัญหาเพื่อผ่านด่านเหล่านั้นไปให้ได้ ถึงจะเล่นเกมจนจบ นอกจากนี้ ในอีกหลายแง่มุม เกมยังมีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น ช่วยฝึกภาษา ช่วยฝึกการทำงานเป็นทีม ช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ ทำให้มีจินตนาการและอาจได้รับแรงบันดาลใจในการทำสิ่งต่าง ๆ ต่อไป ซึ่งหากใครเก่งมาก ๆ ยังสามารถพัฒนาไปทำอาชีพนักกีฬา E-Sport หรือ เป็น Streamer เกี่ยวกับเกม สร้างรายได้ จากการรับชมผ่าน ช่องทางออนไลน์ได้อีกด้วย
7. เล่นบอร์ดเกม
นอกจากเล่นเกมบนมือถือ หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องวิดีโอเกมต่าง ๆ การเล่นบอร์ดเกม ก็เสริมสร้างสติปัญญาและอารมณ์ของเราเช่นกัน แต่เป็นในแบบดั้งเดิมกว่า นั่นคือการเล่นเกมโดยมีป๊อบอัพ มีฟิกเกอร์และกฎต่าง ๆ ให้เราเล่นและปฏิบัติตาม ซึ่งหลาย ๆ เกมก็ต้องใช้ไหวพริบปฏิภาณในการเล่น และเนื่องจากเกมแบบนี้ ต้องใช้ผู้เล่น 2 คนขึ้นไป ทำให้เราได้เสริมสร้างมิตรภาพกับกลุ่มเพื่อนหรือคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนได้โดยง่าย เป็นการเพิ่มทักษะด้านสติปัญญาและการเข้าสังคมไปพร้อมกัน