งานเสริมทำที่บ้าน ยุคสมัยนี้มีมากมาย เพราะรายได้ทางเดียวอาจไม่พอ คนทำงานรุ่นใหม่ จึงควรที่จะปรับตัว หางานเสริมทำควบคู่กับงานหลัก ยิ่งมีอินเตอร์เน็ตและสื่อโซเชี่ยลเป็นช่องทาง ที่ทำให้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ และทำงานได้ทุกเวลา การเลือกทำงานเสริม จึงไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากมีรายได้เพิ่มขึ้น หรือ หางานใหม่ทำอยู่ SGEPRINT จะชวนมาดูว่า งานเสริมทำที่บ้าน มีอะไรบ้าง ใคร ๆ ก็ทำได้จริงหรือไม่ แล้วรายได้ดีมันจะดีแค่ไหน ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูกันเลย1. ขายของออนไลน์
ไม่มีงานเสริมไหน ที่จะเริ่มต้นง่ายเท่ากับ ขายของออนไลน์ อีกแล้ว ด้วยช่องทางที่มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook Lazada Shopee หรือแม้แต่ช่องทางสุดฮิตมาแรงอย่าง Tiktok ก็ล้วนลงรูป ถ่ายวิดีโอ ขายของได้ทั้งหมด คนจำนวนมากจึงหันมาขายของออนไลน์ มากกว่าจะไปเปิดร้าน เช่าแผง เหมือนอย่างที่ผ่านมา ซึ่งด้วยความรู้ที่มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น youtube หรือ จากคอร์สเรียนฟรีของแต่ละช่องทางเอง จึงไม่ต้องกังวลว่าต้องมีความรู้ หรือ ขายของเป็นมาก่อน ถึงจะทำได้ ขอแค่มีความตั้งใจ เริ่มต้นลงมือทำทันที บวกกับขยันเรียนรู้ และลงขายสินค้าอย่างสม่ำเสมอ เชื่อแน่ว่า ออร์เดอร์แรกอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม โดยหากขายดีแบบสุด ๆ อาจสร้างรายได้ถึง 7-8 หลักเลยทีเดียว
2. Freelance
งานฟรีแลนซ์ ถ้าฝีมือดี ๆ ขยันทำงาน อาจทำรายได้เทียบเท่ากับ งานประจำได้เลย คนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อย จึงเลือกที่จะทำอาชีพนี้ มากกว่าเป็นมนุษย์เงินเดือน เพราะมีอิสระ ทำงานที่ไหน เวลาไหนก็ได้ ไม่ต้องเข้าออฟฟิศให้เหนื่อย ไม่ว่าจะทำกราฟฟิก เขียนบทความ แปลภาษา สร้างเว็บไซต์ ฯลฯ ซึ่งแต่ละงานก็สามารถเรียกเรตราคา เท่ากับเงินเดือนที่ได้รับในแต่ละวันเลยทีเดียว หรือ บางงานก็อาจได้มากกว่าด้วยซ้ำ จึงถือเป็นอีกงานหนึ่งที่น่าสนใจมากสำหรับคนอยากทำงานอยู่บ้าน โดยหากต้องการหางานฟรีแลนซ์ สามารถเข้าไปสมัครและสร้างโปรไฟล์ของตัวเอง ได้เลยตามเว็บไซต์ที่รับสมัครฟรีแลนซ์เช่น Fastwork Freelancebay Freelancer เป็นต้น
3. ทำอาหารเดลิเวอรี่
เดี๋ยวนี้คนกินอาหารอยู่ที่บ้านมากขึ้น จึงต้องสั่งเดลิเวอรี่เป็นหลัก แต่คนทั่วไปก็ใช่ว่าจะสั่งอาหารแต่จากร้านอาหารชื่อดังเท่านั้น ร้านอาหารรายย่อยหรืออาหารแบบโฮมเมด ก็มีคนสั่งมาทานเช่นกัน เพราะถ้า หน้าตาออกมาน่ากิน ถ่ายรูปออกมาก็สวย ทางร้านก็รู้จักใช้สื่อโซเชี่ยลในการโปรโมต จนมีการกดแชร์ พูดคุยแบบปากต่อปาก ไปในหมู่เพื่อนเรื่อย ๆ โอกาสที่การทำอาหารส่งแบบเดลิเวอรี่ จะสร้างรายได้ให้กับคุณ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย ดังนั้น หากมีความสามารถด้านทำอาหาร ก็อย่าให้เสียเปล่า ลองทำออกมา แล้วถ่ายรูปลงโซเชี่ยล ให้สวย ๆ พร้อมกับเตรียมร้านค้าให้รองรับช่องทางเดลิเวอรี่ต่าง ๆ ไม่นานต้องมีคนสั่งอาหารของคุณไปทานแน่นอน
4. แอดมินเพจ Facebook
เพราะคนขายของออนไลน์กันมากขึ้น ทำให้เพจบน Facebook มีมากขึ้นตามไปด้วย แต่ด้วยการแข่งขันที่สูง ทำให้ต้องทำการตลาด รวมถึงอัปเดตเพจตลอดเวลา เพื่อให้เป็นที่รู้จักและให้ลูกค้าได้เห็นโพสขายของ เพื่อสั่งซื้อ ทำให้เจ้าของเพจ ซึ่งบางคนก็มีงานประจำ หรือ บางคนก็ทำธุรกิจหลายอย่าง ไม่มีเวลาดูแล จึงจะเห็นได้ว่า มีการสมัครรับคนเป็นแอดมินเพจ Facebook จำนวนมาก เพื่อคอยอัปเดตเพจ รับออร์เดอร์ และตอบลูกค้าที่อินบ็อกเข้ามา ดังนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบเล่นเฟซบุ๊ก ชอบอัปเดตข่าวคราวความเคลื่อนไหว และติดตามกระแส เทรนด์ที่เกิดขึ้นในโซเชี่ยลตลอดเวลา งานนี้ก็อาจจะเหมาะกับคุณ โดยอุปกรณ์ที่ใช้ ขอแค่มีโน้ตบุ๊กหรือมือถือ 1 เครื่องก็ทำงานได้แล้ว โดยรายได้อาจอยู่ระหว่าง 15,000 – 20,000 บาทเลยทีเดียว
5. Youtuber
อาชีพที่กำลังมาแรง ถึงขนาดที่ว่าเป็นอาชีพในฝันของเด็ก ๆ สมัยนี้ เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สามารถทำที่บ้านได้ ซึ่งแม้การผลิตคอนเทนต์ ของ Youtuber ชื่อดังส่วนใหญ่ จะเห็นได้ว่า ต้องออกสถานที่ แต่นั่นก็ไม่ได้จำเป็นเสมอไป ขึ้นอยู่กับแนวทางของการทำคอนเทนต์ของแต่ละคนมากกว่า ซึ่งถ้าเป็นแนว Adventure ท่องเที่ยว ถ่ายรูป ฯลฯ ก็แน่นอนว่าต้องออกสถานที่อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นแนวให้ความรู้ ทำอาหาร ก็สามารถทำอยู่ที่บ้านได้ คุณจึงอาจต้องกำหนดแนวทางที่เหมาะสมให้กับช่องของตนเอง ถ้าอยากทำวิดีโออยู่ที่บ้าน แบบ 100% อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ต้องกักตัวหรือล็อกดาวน์ในช่วงโควิด จะเห็นได้ว่า Youtuber ที่เคยทำแนวท่องเที่ยว ถ่ายรูป ออกนอกสถานที่ เมื่อต้องอยู่บ้าน เขาก็ปรับตัว มีมาทำคอนเทนต์พวกแนวอื่น ๆ เช่น ทำอาหาร ถ่ายวิดีโอไลฟ์สไตล์ตอนอยู่ที่บ้านเช่นกัน ทำให้เห็นได้ว่า เราไม่ต้องจำกัดแนวในการทำ Youtuber แต่อย่างใด ขอแค่เพียงเราเป็นตัวเรา ทำวิดีโอในแบบที่เราถนัด และถ่ายทำออกมาให้น่าสนใจ แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนมากด Subscibe และติดตามช่อง Youtube ของคุณแล้ว
6. Tiktoker
เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่กำลังมาแรง เพราะเป็นแอปที่คนไทยกำลังนิยมเล่นกันอยู่ตอนนี้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเต้น หรือ ทำวิดีโอแบบสั้น ๆ ให้คนอื่นได้ดูกัน ซึ่งถ้าถามว่าเรื่องของคอนเทนต์ที่ลงใน Tiktok กับ Youtuber มีความต่างกันอย่างไร ก็ต้องตอบว่า ค่อนข้างแตกต่างกันมาก คือ ใน Tiktok คุณไม่จำเป็นต้องทำคอนเทนต์ขนาดขาวเหมือนในยูทูปเลย ทำแบบสั้น ๆ ก็พอแล้ว และเรื่องเนื้อหาก็ทำได้หลากหลายมาก จะเต้น ถ่ายคลิปตลก ถ่ายคลิปในชีวิตประจำวัน หรือ แค่ลงรูปตัวเองแล้วใส่เพลงประกอบให้น่าสนใจ เพียงเท่านี้ ก็มีคนดูแล้ว ไม่ได้จำกัดเลยว่าต้องมีเนื้อหาที่มีสาระ มีคุณภาพ อะไรมาก ที่สำคัญคือ ยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขายของออนไลน์ได้อีกด้วย โดยการถ่ายคลิปรีวิวสินค้าต่าง ๆ แล้วแปะลิ้งก์สั่งซื้อสินค้าข้างใต้ รู้อย่างนี้แล้ว ใครยังไม่สมัครก็รีบสมัครซะ แล้วถ่ายคลิป เริ่มเป็น Tiktoker ได้เลย
7. เขียนบทความ
เขียนบทความลงบนเว็บไซต์ หรือ Blog ของตนเอง ถือเป็นวิธีการสร้างรายได้เสริม ที่มีมาตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของการทำอินเตอร์เน็ต จนถึงปัจจุบัน ก็ยังเฟื่องฟูอยู่ ดังนั้น หากใครชอบคิดชอบเขียน ชอบนำเสนอความรู้ให้กับผู้คน ก็เริ่มต้นเขียนแล้วโพสลงได้เลย โดยหากใครไม่รู้จะสร้าง Blog หรือ Website ยังไง สามารถเข้าไปสร้าง Blog ในแพลตฟอร์มที่ชื่อ Blockdit ได้เลย เพราะในนั้น จะมีลักษณะการใช้งานเหมือนกับ Facebook คือ โพสแล้วก็จะมีคนกดไลก์ กดติดตาม แต่จะแตกต่างกันตรงที่ว่า ถ้าหากมีคนติดตามคุณถึง 1000 คนเมื่อไหร่ จะสามารถกดสร้างรายได้จากการเขียนโพสในครั้งถัด ๆ ไป และเมื่อได้รับ Engagement หรือมีคนให้เพชรคุณ ยิ่งได้รับมากเท่าไหร่ รายได้ก็จะมากตามไปด้วย จึงถือเป็นช่องทางที่น่าสนใจ ซึ่งนอกจาก Blockdit แล้ว ก็ยังมีอีกช่องทางหนึ่ง คือ แอป TrueID ที่เมื่อลงบทความแล้ว จะได้รับเฉลี่ยอยู่ที่ 100 บาท/บทความ ฯลฯ หากอ่านแล้ว รู้สึกสนใจแพลตฟอร์มไหน ก็ไปลองสมัครดู แล้วเขียนเลย