ประวัติย่อส่วนบุคคล หรือ เรซูเม่ ถือเป็นประการด่านแรกของการสมัครงาน ที่จะทำให้ผู้สมัครงานได้มีโอกาสแนะนำตัวฉบับย่อให้ผู้ว่าจ้างได้รู้จักผู้สมัครงานเบื้องต้น ทั้งการศึกษา ความสามารถ การ ทำเรซูเม่สมัครงาน ที่ดี น่าสนใจ ก็จะช่วยให้ผู้สมัครมีโอกาสที่จะถูกเรียกสัมภาษณ์ได้ง่ายขึ้น
ความสำคัญของ เรซูเม่ (Resume) วัตถุประสงค์ของการทำเรซูเม่ เพื่อให้ผู้สมัครงานเขียนข้อมูลส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน ผลงาน ความสำเร็จ ความสามารถพิเศษ เพื่อให้ผู้ว่าจ้างได้เห็นความสามารถ ประสบการณ์ ที่มีความสอดคล้องกับตำแหน่งที่จะเปิดรับ และสามารถทำงานตำแหน่งที่เปิดรับได้
โครงสร้างการ 👜 ทำเรซูเม่สมัครงาน มีอะไรบ้าง
ก่อนการเขียน Resume ต้องรู้จัก โครงสร้างของเรซูเม่ เสียก่อน ว่ามีข้อมูลอะไรบ้างที่ต้องใส่ โดยมีข้อมูลดังนี้
1.ประวัติส่วนตัว เป็นส่วนที่จะอยู่ Section ด้านบนสุดของ Resume ประกอบด้วย ชื่อ-นามสกุล , น้ำหนัก ส่วนตัว ที่อยู่ปัจจุบัน , เบอร์โทรศัพท์ , E-mail , รูปถ่ายสุภาพ
2. ประวัติการศึกษา ใส่ข้อมูลการศึกษา โดยเรียงจากการศึกษาลำดับสูงสุด จนต่ำสุด (ระดับประถม กับ มัธยมต้นไม่ต้องใส่ก็ได้)
3. ประสบการณ์ทำงาน ให้ใส่สถานที่ทำงานสุดท้ายขึ้นก่อน เรียงไปจนงานแรก โดยรูปแบบการใส่ จะมีช่วงเวลา ตำแหน่ง ชื่อบริษัท และใส่รายละเอียดงานที่เคยทำ / หากเป็นเด็กจบใหม่ อาจจะใส่แค่ ช่วงเวลา กิจกรรมสำคัญที่เคยทำ หรือประสบการณ์ฝึกงาน (พยายามเขียนอธิบายว่าได้ฝึกงานอะไรบ้าง) เช่น การเข้าร่วมโครงการประกวดต่างๆ การออกค่าย
4.ทักษะและความสามารถพิเศษ หากเป็นความสามารถที่เกี่ยวข้องกับสายงานที่สมัครควรเขียนเริ่มก่อน
เช่น ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี , ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ เช่น เขียนเว็บไซต์ด้วย WordPress ใช้โปรแกรมตระกูล Adobe , มีความรู้เรื่อง Big Data , โปรแกรมตระกูล Microsoft ความสามารถอื่นๆ รองลงมาอาจจะเป็นทักษะด้าน ดนตรี กีฬา ศิลปะ
5.รางวัล / การอบรม ถ้าเป็นบุคคลมีประสบการณ์การทำงานแล้ว อาจจะระบุคอร์สอบรมที่ได้ผ่านมา ถ้าเป็นคอร์สที่ได้ใบเซอร์ด้วยจะดีมาก พร้อมทั้งแนบเอกสารใบเซอร์ไปด้วย เช่น ถ้าเป็นนักการตลาดออนไลน์ ก็อาจจะเขียนว่าเคยสอบผ่าน Facebook Blueprint Certification ในการเขียนอะไรลงไปตรงส่วนนี้แนะนำว่าควรมีเอกสารแนบยืนยันความสำเร็จไปด้วยจะดีมาก / ส่วนถ้าเป็นนักศึกษาจบใหม่ อาจจะจะเขียนเกี่ยวกับการเข้าร่วมโครงการ หรือ การประกวด และความสำเร็จต่างๆ การเขียนควรเรียงจากช่วงเวลาล่าสุด ไปหาช่วงอดีต
6.บุคคลอ้างอิง ระบุชื่อบุคคลอ้างอิงที่สามารถยืนยันข้อมูล หรือรับรองข้อมูลของท่านให้แก่บริษัทสมัครงานได้ ข้อมูลตรงนี้ส่วนใหญ่เป็นหัวหน้างานในอดีต หรือถ้าเป็นเด็กจบใหม่อาจจะอ้างอิงถึงอาจารย์ แต่ไม่ควรอ้างอิงถึงบุคคลในครอบครัว
สรุป การ ทำเรซูเม่สมัครงาน 👜 ที่จะให้โดนใจ HR
ข้อมูลต้องถูกต้อง กระชับ แม่นยำ
การ ทำเรซูเม่สมัครงาน คอนเซปของมันคือการแนะนำตัวแบบย่อ เพราะฉะนั้น เรซูเม่ที่ดีควรมีความกระชับ ไม่ควรเกิน 2 หน้า ใน 6 องค์ประกอบนั้นอาจจะมีเพิ่ม หรือ ลด สามารถปรับได้ตามความเหมาะสม สิ่งที่อยากให้ใส่ใจคือข้อมูล และรายละเอียด ประสบการณ์การทำงาน ประวัติการศึกษา ข้อมูลติดต่อ ประสบการณ์ ข้อมูลเหล่านี้ต้องถูกต้องชัดเจน
การจัดระเบียบข้อมูลให้ง่ายต่อการอ่าน
พยามยามจัดข้อมูลให้เป็นระเบียบ ถ้าเป็นไปได้ข้อมูลสำคัญๆ เช่น ชื่อ-นามสกุล , ข้อมูลการติดต่อ ,การศึกษา , ประสบการณ์ทำงาน , ความสามารถพิเศษ ควรจัดรูปแบบบให้อยู่ในหน้าเดียวกันให้ได้ เพื่อให้ Hr ได้โฟกัสข้อมูลส่วนนี้ไม่นาน เพราะส่วนใหญ่ Hr มักจะให้ใช้เวลาอยู่ต่อ 1 Resume ไม่เกิน 6-10 วินาทีแค่นั้น เพราะฉะนั้นการจัดระเบียบ การดีไซน์ให้ข้อมูลให้อ่านง่าย เช่นการทำข้อมูลให้อยู่ในตารางสี่เหลี่ยม หรือการดีไซน์เป็นสี่เหลี่ยมบล็อคๆ ในแต่ละข้อมูล เพื่อให้สายตาผู้อ่านไม่หลุดโฟกัส อยู่แต่ในบล็อคสี่เหลี่ยมเท่านั้น
ออกแบบให้สวยงาม
การออกแบบ Resume ให้มีความสวยงามมีความเป็นมืออาชีพ โดยปัจจุบันได้มีเว็บไซต์แจกเทมเพลต เรซูเม่ฟรีๆ หลายเว็บ เช่น Freepik , Rawpixel คุณสามารถไปเลือกดาวน์โหลดและมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเองได้ แต่ส่วนใหญ่การโหลดเทมเพลตเหล่านี้มาใช้งานอาจจะต้องมีความรู้เบื้องต้นการใช้โปรแกรม Illustrator , Photoshop เสียก่อน โดยในปัจจุบันนั้นมีเว็บไซต์ที่รองรับการทำ Resume ออนไลน์ ที่สามารถใช้งานง่าย เพียงแค่ไม่กี่คลิกก็สามารถมีเรซูเม่สวยๆ มืออาชีพ ออกมาใช้งานแล้ว นั้นก็คือ Canva นั่นเอง สามารถดูรายละเอียด Canva คืออะไร 👈 คลิ๊ก
Tip การส่งเรซูเม่ทางออนไลน์ ควรส่งเป็นไฟล์ PDF เท่านั้น อย่าส่งเป็นไฟล์ Doc , Word หรือไฟล์อื่นๆ ที่สามารถแก้ไขเอกสารได้เด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณสามารถออกแบบเร่ซูเม่ได้เทพ หรือพิศดารซักเพียงไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะรับคุณเข้าทำงาน คุณควรสามารถ Proof หรือยืนยันสกิลต่างๆ ที่ได้เขียนในเรซูเม่ต่อผู้สัมภาษณ์ หรือ นายจ้างได้ เพราะการอธิบาย ประสบการณ์ ความสามารถ ทัศนคติ ไม่เหมือนกับการเขียนลงในเรซูเม่แน่นอน โดยการสัมภาษณ์จะมีช่องให้สบโอกาส ถาม-ตอบ ระหว่างผู้สัมภาษณ์ และผู้ถูกสัมภาษณ์ หากผู้ถูกสัมภาษณ์ไม่มีความพร้อม หรือเตรียมตัวให้ดีก่อนสัมภาษณ์ ก็อาจจะพลาดงานดีๆ ไปได้
