Email Marketing คือ อะไร ทำไมควรใช้ทำการตลาดออนไลน์ 2023 SGEPRINT มีคำตอบ พร้อมพาคุณไปดู 5 เทคนิคทำ E-mail Marketing ให้มีประสิทธิภาพ ใครอยากรู้ว่า E-mail ช่วยเพิ่มยอดขาย และ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน ให้กับแบรนด์ชั้นนำ หรือ เจ้าของธุรกิจออนไลน์อย่างไร ตามมาดูกันเลย
สารบัญ
Email Marketing คือ
การทำ Email Marketing คือ การทำการตลาดออนไลน์ โดยการส่ง E-mail ไปยังลูกค้า เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร สินค้าและบริการใหม่ ๆ ตลอดจนโปรโมชั่นต่าง ๆ ของแบรนด์ธุรกิจ ให้เกิดการรับรู้ ติดตาม และ กระตุ้นยอดขาย สร้างรายได้ในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน โดยจะทำได้ ต่อเมื่อมีการเก็บรายชื่อ หรือ E-mail ของลูกค้าเอาไว้ ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น ให้สมัคร E-mail แลกรับ E- Book ฟรี หรือ เข้าสัมมนา Training ฟรี เป็นต้น
ทำไมควรทำ Email Marketing
แม้การทำ Online Marketing จะมีหลายช่องทาง ที่สามารถทำให้คนเห็นสินค้าเรานับล้าน และ สร้างยอดขายให้กับเราได้ ไม่ว่าจะเป็น การทำ SEO ดันเว็บไซต์ให้ขึ้นอันดับ 1 ของ Google การยิง Ads ผ่าน Facebook IG เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็น แล้วกดสั่งซื้อ ฯลฯ แต่ทราบหรือไม่ว่า การตลาดแบบนี้ล้วนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็น การปรับ Algorithm ของ Google ที่มีบ่อยครั้ง อาจทำให้เว็บไซต์ของเราตกอันดับได้ หรือ ถ้าไม่จ่ายค่าโฆษณาใน Facebook IG ก็จะถูกปิดกั้นการมองเห็น จนไม่สามารถทำให้ลูกค้าเห็นสินค้าของเราได้อีก
นั่นจึงทำให้นักการตลาดออนไลน์ส่วนใหญ่ ให้ความสำคัญกับการทำ Email Marketing มากขึ้น เพราะนอกจากจะไม่มีความเสี่ยง ในเรื่องถูกปรับตกอันดับ หรือ ถูกปิดกั้นการมองเห็นแล้ว ยังสามารถส่งข้อมูลถึงลูกค้าโดยตรงได้จำนวนมาก ภายในครั้งเดียว ที่สำคัญคือ ฟรี !!! ไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย ส่งผลให้แนวคิดเรื่องการทำ Email Marketing เริ่มกลับมาได้รับความนิยมกันมากขึ้น
และเนื่องจากส่ง E-mail กลับไปหาลูกค้าซ้ำ ๆ ได้ไม่จำกัด ตราบใดที่ลูกค้าคนนั้นยังไม่เปลี่ยนอีเมล์ ซึ่งจะทำให้เราสามารถโฆษณาสินค้าบริการ ตลอดจนโปรโมชั่นได้ยาวนาน ไม่มีกำหนด นักการตลาดออนไลน์บางคนจึงขนานนามว่า E-mail เป็นสินทรัพย์ ที่นักธุรกิจทุกคนควรมี และ เป็นวิธีการทำการตลาดออนไลน์ ที่แม้แต่แบรนด์ดังระดับโลก หลาย ๆ เจ้า ยังคงเลือกใช้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
5 เทคนิคทำ Email Marketing ให้มีประสิทธิภาพ
วิธีทำ Email Marketing ทำได้ไม่ยาก ขอเพียงคุณรู้วิธีเก็บ E-mail จากลูกค้ามาได้ ทุกอย่างก็ฉลุย พร้อมสร้างรายชื่อ เก็บเป็นสินทรัพย์ไว้ทำธุรกิจออนไลน์ได้ในระยะยาว ส่วนที่จะต้องพัฒนาก็คือ รูปแบบของอีเมล์ จะส่งไปถึงลูกค้าอย่างไร ให้เขาอยากเปิดอ่าน ติดตาม หรือ ซื้อสินค้าบริการกับเรา
1. เก็บ E-mail ลูกค้าให้ได้ก่อน
ก่อนที่จะเริ่มทำ Email Marketing คุณจะต้องมีอีเมล์ของลูกค้าก่อน ถึงจะสามารถส่งข้อมูลต่าง ๆ ไปถึงพวกเขาได้ โดยวิธีการที่นักการตลาดมืออาชีพแนะนำคือ ให้คุณสร้าง Sale Page แล้วยิงโฆษณาผ่านทาง Social Media เช่น Facebook เพื่อให้ลูกค้าเห็น และ สมัครผ่าน E-mail เข้ามา
ซึ่งวิธีที่จะทำให้เขาสนใจ และ อยากที่จะให้ E-mail กับคุณ คือ ควรจะให้คุณค่าอะไรบางอย่าง หรือ มีสิ่งของ รางวัล เป็นการตอบแทน เช่น ให้เข้าสัมมนา Training ฟรี หรือ แจก E-book ฟรี เป็นต้น ทั้งนี้ หากใครมีเว็บไซต์อยู่แล้ว ให้สร้าง Sale Page จำนวน 1 หน้า สำหรับเก็บอีเมล์ลูกค้าโดยเฉพาะ
2. ตั้งชื่อหัวข้อให้น่าสนใจ
เมื่อเก็บ E-mail ลูกค้ามาได้ ก็ถึงเวลาที่คุณจะส่งอีเมล์ เพื่อทำการตลาด แต่เนื่องจาก 80 – 90% ของลูกค้า เมื่อได้รับอีเมล์แล้ว มักจะไม่เปิดอ่าน สิ่งที่คุณต้องทำคือ ตั้งชื่อหัวข้อให้น่าสนใจ ไม่ว่าอีเมล์นั้น จะเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ ให้ความรู้ ให้คุณค่า หรือ แจกส่วนลด โปรโมชั่นต่าง ๆ
เทคนิคก็คือ ตั้งชื่อให้เหมือนบทความ ไม่ว่าจะเป็น การใส่คำที่ดึงดูดความสนใจ เช่น ใหม่ ! ถูกที่สุด ! เล่นกับความกลัวของคน เช่น “เฉพาะวันนี้เท่านั้น !” “หมดเขต…” หรือ นำหน้าหัวข้อด้วยตัวเลข เช่น “9 วิธี…” ฯลฯ เพียงเท่านี้ ก็จะช่วยให้อีเมล์ของคุณมีความน่าสนใจ ดึงดูดนิ้วโป้งของลูกค้า ให้อยากกดอ่านอีเมล์มากขึ้น
3. ใส่ชื่อลูกค้าลงไป เพื่อเพิ่มความใกล้ชิด
ทันทีที่เรามีอีเมล์ ก็เหมือนกับมีลูกค้าวงใน ที่สามารถพูดคุย ทำการโฆษณาได้อย่างใกล้ชิด ดังนั้น เมื่อจะส่งอีเมล์ไปหาลูกค้า ให้ใส่ชื่อของลูกค้าลงไปด้วย นอกจากจะทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษ และ ใกล้ชิดกับแบรนด์แล้ว ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้าทางอ้อม ทำให้ลูกค้าเกิด Loyalty ต่อแบรนด์ได้อีกด้วย โดยคุณสามารถรู้ชื่อจริง – ชื่อเล่นของลูกค้า จากการ List รายชื่อ ตอนที่พวกเขาสมัคร E-mail เข้ามา แต่ถ้าใครใช้ E-mail Marketing Service ก็ไม่ต้อง List ไว้เอง เพราะส่วนใหญ่จะมีฟีเจอร์นี้อยู่แล้ว
4. เพิ่มความน่าสนใจด้วยรูปภาพ
เพราะข้อความอย่างเดียว อาจน่าเบื่อเกินไป ยิ่งยาว ยิ่งทำให้ลูกค้าขี้เกียจอ่าน จึงควรเพิ่มความน่าสนใจด้วยการใส่รูปภาพ จะทำให้อีเมล์ของคุณมีความน่าสนใจ เนื้อหากระชับ เข้าใจง่ายมากขึ้น โดยสามารถแทรกลิงก์ลงไปในรูปภาพ เพื่อให้ลูกค้ากดสั่งซื้อสินค้า ใน Sale Page หรือ ไปเยี่ยมชมสินค้า บนหน้าเว็บไซต์ของเรา ตามที่เราต้องการ
5. ปิดการขายด้วย Sale Page
หลังจากได้ E-mail ลูกค้ามาแล้ว เมื่อถึงเวลาที่จะปิดการขาย ให้ปิดการขาย โดยใช้ Sale Page ซึ่งหน้า Sale Page นี้ ควรทำเพียงแค่หน้าเดียว และ มีรายละเอียดของสินค้าอย่างครบถ้วน เพื่อให้ลูกค้าได้อ่านประกอบการตัดสินใจ โดยเคล็ดลับที่จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจ เมื่อกดเข้าไปดู คือ เริ่มต้นด้วยปัญหาที่ลูกค้าเจอ แล้วแนะนำว่าสินค้าของเราจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร พร้อมกับนำเสนอส่วนลด โปรโมชั่นราคาพิเศษ ที่สำคัญควรมีปุ่ม Call to Action และ การจำกัดเวลา เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่า ถ้าไม่ซื้อตอนนี้ จะไม่ได้ราคานี้อีก เช่น ปกติ 1,290 ลดเหลือ 790 บาท เฉพาะเที่ยงคืนวันนี้เท่านั้น ! เป็นต้น ก็จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
เก็บ Email จากลูกค้าอย่างไร ให้ได้ผล
ดังที่กล่าวไปแล้วว่า ก่อนที่จะเริ่มทำ Email Marketing คุณควรมีอีเมล์ของลูกค้าก่อน ถึงจะสามารถทำการตลาดผ่านทาง E-mail ได้ ซึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณเก็บ E-mail จากลูกค้าได้ มี 3 วิธีด้วยกันคือ
1. แจก E-book
เหมาะสำหรับธุรกิจทุกประเภท ทั้งขายสินค้า บริการ ขายคอร์สเรียนต่าง ๆ โดย E-book นั้น ควรเน้นการทำ Content ที่ช่วยแก้ปัญหา ให้กับลูกค้าในด้านต่าง ๆ หรือ แจกสูตรความสำเร็จ เพื่อดึงดูดความสนใจ เช่น ถ้าขายคอร์สเรียนการตลาดออนไลน์ อาจทำ E-book เรื่อง “รวมสูตรการทำการตลาดออนไลน์เงินล้าน” หรือ ถ้าทำคอร์สอน Shopee ก็ทำ E-book เรื่อง “ขายบน Shopee ยังไงให้ได้เงินล้าน” เป็นต้น
2. ให้เข้าสัมมนา Training แบบฟรี ๆ
อีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เหมาะสำหรับคนที่ทำคอร์สเรียนออนไลน์ สามารถทำได้ โดยการจัดสัมมนา หรือ Training พิเศษ แล้วยิงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายใน Facebook Youtube เพื่อให้มีคนสมัคร E-mail เข้ามา หลังจากทำการเรียนการสอนเสร็จแล้ว จึงขายคอร์ส แล้วใช้ Email Marketing ทำการตลาดในกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ
3. แจกคูปองส่วนลด
เป็นวิธีเก็บ E-mail ลูกค้าที่เหมาะกับร้านค้าปลีก โดยการให้ลูกค้าสมัคร E-mail เพื่อเข้าไปเก็บส่วนลด แล้วนำไปใช้ในการซื้อสินค้าบริการ ณ หน้าร้าน หรือ ในเว็บไซต์ของคุณ
รู้จักการทำการตลาดแบบ Email Marketing ตลอดจน 5 เทคนิคทำ E-mail Marketing ให้มีประสิทธิภาพกันแล้ว ใครสนใจ ก็ลองนำไปปรับใช้กันดูได้ รับรองว่า จะช่วยให้คุณสามารถโฆษณาถึงลูกค้าได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย และ สามารถโฆษณาซ้ำไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ ไม่มีกำหนด ทำให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณ สามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืนได้อย่างแน่นอน
บทความที่น่าสนใจ