การเลือก คีย์เวิร์ด ที่จะมาทำ SEO ที่ดี 👌 เหมาะสมกับธุรกิจ ก็เปรียบเสมือนการติดกระดุมเม็ดแรก ถ้าคุณเลือก Keyword ผิดพลาด ก็เหมือนกับคุณติดกระดุมเม็ดแรกผิด ขั้นตอนต่อไปก็จะผิดไปหมด เช่นคุณเปิดร้าน รับทำป้ายไวนิล แต่กลับเลือก คีย์เวิร์ด รับพิมพ์ไวนิล ซึ่งเป็น Keyword ที่มีการค้นหาต่อเดือนที่น้อย แต่กลับพบเจอว่ามีคู่แข่งเยอะมาก ซึ่งถ้าถามว่าการเลือกคีย์ รับพิมพ์ไวนิล ผิดไหมตอบเลยว่าไม่ผิด แต่ถ้าถามว่าคุ้มค่ากับการลงทุนตะบี้ ตะบัน ทำ SEO ไหมตอบเลยว่าไม่ (ปล.ต้องบอกว่า Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ รับทำป้ายไว้นิล มีจำนวนที่เยอะมากอาจจะพิจาณาเลือกหลายคีย์เลย) คุณสามารถอ่านเนื้อหา SEO ได้ที่ คลิ๊ก 👉 SEO คือ อะไร
✍️ ถามว่าทำไม Keyword “รับพิมพ์ไวนิล” มีการค้นหาต่อเดือนที่น้อย แล้วทำไมยังมีคู่แข่งที่เยอะอีก ต้องอธิบายอย่างงี้ว่า คู่แข่งอาจจะไม่ได้เจาะจงทำ SEO คำว่า รับพิมพ์ไวนิล ก็จริง แต่ เว็บไซต์ของคู่แข่งที่อยุ่ในตลาดนี้ดันมี Keyword / บทความ ที่มีความเกี่ยวหรือเชื่อมโยงกับคำว่า รับพิมพ์ไวนิล ทำให้ไม่คุ้มค่าแน่นอนหากเลือกทำ SEO
ก่อนเลือก Keyword ควรรู้จัก ประเภทของ คีย์เวิร์ด กันเสียก่อน
ประเภทของ Keyword นั้นสามารถแบ่งได้เป็น 3 ชนิดดังนี้
ตัวอย่าง Keyword ประเภท Seed keyword ที่ไม่ควรเลือกมาทำ SEO
1. Seed Keyword / Mass Keyword เป็นเหมือนคำหลัก หรือเป็นเมล็ดพันธุ์ของ Keyword นั้นๆ จะมีปริมาณการค้นหาที่สูงมาก คนที่เสิร์ชคำว่า ไวนิล เข้ามาอาจจะไม่ได้ต้องการที่จะพิมพ์ไวนิลก็ได้ เพราะฉะนั้นหลายธุรกิจจึงหลีกเลี่ยงที่จะทำ SEO Seed keyword เป็นอันดับแรก โดย Seed keyword ถือเป็นคำตั้งต้นที่จะทำให้เราสามารถแตก Keyword ย่อยๆ ไปได้อีกหลายคีย์ ยกตัวอย่าง ไวนิล >> ป้ายไวนิล >> รับทำป้ายไวนิล >> ร้านทําป้ายไวนิล
2. Niche Keyword คีย์เวิร์ดที่จำเพาะ เจาะจง ปริมาณการค้นหาจะลดลงกว่าแบบแรก เนื่องจากผู้เสิร์ชไม่ได้ต้องการแค่อยากรู้เกี่ยวกับไวนิลแล้ว แต่มีความต้องการที่จะสั่งซื้อ หรือสั่งพิมพ์ไวนิล เช่น รับทำป้ายไว นิล , ร้านป้ายไวนิลใกล้ฉัน , ร้านทําป้ายไวนิล
3. Niche Longtail Keyword ถือเป็นคำที่เจาะจงกว่าแบบแรก และมีความหมายที่ยาวกว่า คีย์พวกนี้ส่วนใหญ่จะต้องตามด้วยชื่อรุ่น เช่น ขาย กระเป๋า celine ของแท้ รุ่น MINI BELT BAG
แนวทางเลือก Keyword หรือ หา คีย์เวิร์ด ที่ SGEPRINT แนะนำ
กรอง Keyword ด้วย Google Trend เพื่อหาความสม่ำเสมอในการเสิร์ชของ Keyword นั้น
ในการเลือก Keyword สำหรับนำมาทำ SEO สำหรับธุรกิจนั้นไม่ใช่ว่าเลือกจาก Keyword Planner แล้วจะสามารถนำมาใช้ได้เลย แต่ต้องมีการค้นคว้าและวิจัยด้วย หรือ ที่เรียกว่า Keyword Research โดยมีแนวทาง 3 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
1. ไปที่ Keyword Planner แล้วไปกวาดเอาคียเวิร์ดออกมาให้ได้มากที่สุด แนะนำให้หาโดเมนคู่แข่งมาใส่ประกอบด้วย แล้ว Export ออกมาวิเคราะห์ต่อ ขั้นตอนนี้ให้กรอง Keywordที่มีการค้นหามากที่สุดไล่มาจนถึงคีย์ที่มีการค้นหาน้อยที่สุด ขั้นตอนนี้ให้แยกไว้เลยว่าอัน Seed Keyword อันไหน Niche Keyword ให้นั่งหา นั่งวิเคราะห์ไปเรื่อยๆจนเจอคีย์ที่เหมาะสมกับธุรกิจ ให้ลิสต์เก็บไว้อย่างน้อย 30 Keyword
2. ให้ไปที่ Google Trend ให้เอา คีย์เวิร์ดที่ลิสต์ไว้ไปวิจัยต่อใน Google Trend เพื่อหาว่า Keyword นั้น ในแต่ละช่วงเวลามีการค้นหาที่สม่ำเสมอหรือไม่ เช่น การค้นหาในช่วงเวลา 1-5 ปี ให้เลือกที่มีการค้นหาที่สม่ำเสมอ
3. วิเคราะห์คู่แข่ง นำคีย์เวิร์ดที่ได้จากขั้นตอนที่ 3 มาเสิร์ชใน Google.co.th แล้วนำคู่แข่งทั้ง 10 อันดับมาวิเคราะห์ ส่วนใหญ่ถ้าเว็บ5-10 อันดับแรก เจอ Backlink พวก Guest Post ที่มาจากเว็บชั้นนำของประเทศ เช่น มติชน ข่าวสด ผู้จัดการ ฯลฯ 😱
พอจะคาดเดาได้เลยว่าตลาดที่เราจะเล่นนั้นโหด😡แค่ไหน ซึ่งสุดท้ายแล้วก็อยู่ที่ธุรกิจเป็นคนตัดสินว่าจะเลือกคำไหนเป็นคำหลักในการทำ SEO คำไหนเป็นคำรอง
ในการทำ SEO ควรมี Keyword ในมือซัก 30 คีย์ และควรโฟกัสคีย์หลักที่หน้าไหน คีย์รองที่หน้าไหนให้ชัดเจน
โดยแต่ละหน้าไม่ควรมี Keyword ที่จะทำ SEO เกิน 3 คีย์ขึ้นไป ถ้าเกินกว่านี้โอกาสที่จะทำ SEO จะยากขึ้นไปอีก หากมี
คีย์ที่จะทำ SEO เยอะ ก็ควรแบ่งไปทำหลายๆ หน้า (3 คีย์ / 1 หน้าเว็บ) เพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่า
จบไปแล้วสำหรับการเลือก คีย์เวิร์ด มาทำ SEO ง่ายๆ สไตล์ หวังว่าธุรกิจจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับธุรกิจของตัวเองได้ ถึงแม้ขั้นตอนในการวิจัย Keyword นั้นจะค่อนข้างน่าเบื่อมาก แต่ก็เป็นขึ้นตอนที่สำคัญมาก เพราะถ้าเลือกผิด จะกระทบ หรือเสียหายหลายส่วน ต้องมานั่ง Optimize เขียนบทความใหม่ หรือ แก้เว็บใหม่ทั้งหมดเลยก็ได้