สมัยนี้หลายคนหันมาทำงานเป็นฟรีแลนซ์กันมากขึ้น เพราะต้องการความอิสระและเวลาที่สามารถบริหารจัดการการทำงานของตัวเองได้ตามใจชอบ แต่การทำงานฟรีแลนซ์เราอาจจะประสบกับช่วงเวลาที่มีงานบ้าง ไม่มีงานบ้าง รวมถึงช่วงเวลาไม่คาดฝัน เช่น ลูกค้าจ่ายเงินช้า ดังนั้น เราควรมีความสามารถในการบริหารการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะได้มีเงินใช้ทุกช่วงเวลาแบบสบาย ๆ เชื่อว่าใครทีทำงาน Freenlacee พ่อค้า แม่ค้า ต้องมีความกังวลถึงสถานภาพทางการเงินในช่วงบั้นปลายของอาชีพกันบ้าง จะมี วิธีการออมเงิน เก็บเงินอย่างไร จนถึงเกษียณ เนื่องจากอาชีพฟรีแลนซ์ พ่อค้า แม่ค้า ไม่ได้มีรายได้ที่มั่นคง หรือแน่นอน เหมือนกับอาชีพรับราชการ หรือ พนักงานบริษัทเอกชน ที่มีรายได้ หรือ เงินเดือนที่แน่นอน จะมีวิธีการรับมืออย่างไรเมื่อวันที่ต้องเกษียณมาถึง วันนี้ SGETHAI มีคำแนะนำสำหรับการออมเงินมาฝากกัน..

วางแผนการเก็บเงิน

เราต้องมีเป้าหมายในการเก็บเงิน และใช้เงินก่อน เมื่อได้เงินมาแล้ว จะเก็บเงินในรูปแบบใด จะนำเงินไปต่อยอดยังไงให้งอกเงย ไม่ว่าจะเป็น บัญชีเงินฝากออมทรัพย์/ฝากประจำ , ซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต , ตราสารหนี้/หุ้นกู้/พันธบัตร หุ้น/กองทุนหุ้น ส่วนจะลงทุนในส่วนไหนอันนี้แล้วแต่ผู้ลงทุนต้องศึกษาเรื่องความเสี่ยงด้วยตัวเอง เพราะแต่ละ ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน  มีข้อดี และข้อเสียต่างกัน แต่ละคนรับต่างยอมรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน หากต้องการวางแผนการเก็บเงินระยะยาว ก็นำเงินไปลงทุนใน RMF หรือประกันชีวิตแบบบำนาญ และที่สำคัญไม่ควรตามใจตนเองเมื่อคิดจะเก็บเงินซื้อคอนโด ไม่เช่นงั้นเงินออมอาจละลายกลายเป็นสิ่งของสนองความอยากของตนเองไปในที่สุด
เทคนิค: หากเป็นเก็บเงินไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ก็อาจจะเก็บเงินประเภท ออมทรัพย์ , ส่วนถ้าเก็บเงินไม่ค่อยได้ ไม่ชอบความเสี่ยง แนะนำ กรมธรรม์ประกันชีวิต เพราะนอกจากจะได้ออมเงินแล้ว ยังได้การคุ้มครองในคราวเดียวกันอีกด้วย

เทคนิค วิธีการออมเงิน

ใช้บัตรเครดิต

ใครว่าการใช้บัตรเครดิตคือความเสี่ยงมาก แต่รู้หรือไม่ว่าการใช้บัตรเครดิตอย่างถูกวิธีจะช่วยให้เพิ่มเครดิตให้กับผู้ถือบัตรได้ เพราะธนาคารสามารถดูพฤติกรรมการใช้จ่ายและวินัยทางการเงินเช่น หากต้องการกู้ซื้อคอนโด การใช้บัตรเครดิตอย่างระมัดระวัง จ่ายเต็มทุกครั้ง และไม่มีหนี้ผ่อนคงค้างจึงช่วยให้การกู้ซื้อคอนโด หรือโอกาสในการกู้เงินฉุกเฉินอื่นๆ ได้มีโอกาสผ่านง่ายกว่าเดิม

คุ้มค่าใช้จ่ายด้วยการแยกบัญชีให้ชัดเจน

วิธีออมเงินซื้อบ้านและคอนโดอย่างได้ผลนั้นไม่ใช่แค่เก็บเงินเพียงอย่างเดียว แต่ต้องรู้จักบริหารจัดการเงินอย่างรอบคอบด้วย โดยต้องแยกบัญชีใช้จ่ายกับบัญชีเงินออมออกจากกันเป็นอันดับแรก และกันเงินออมไว้ไม่ให้ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันโดยง่าย ส่วนเงินที่แยกไว้ใช้จ่ายก็ควรใช้เฉพาะเท่าที่จำเป็น และไม่ควรตามใจตนเองเมื่อคิดจะเก็บเงินซื้อคอนโด ไม่เช่นงั้นเงินออมอาจละลายกลายเป็นสิ่งของสนองความอยากของตนเองไปในที่สุด

สร้างความปลอดภัย

การเป็นฟรีแลนด์ นั่นหมายถึงการเป็นเจ้านายตัวเอง ไม่ได้มีสวัสดิการ ดังนั้นหากเป็นอะไรไปเงินที่เก็บมาทั้งหมดได้หมดไปกับการรักษาแน่ๆ ควรซื้อประกันชีวิต และประกันสุขภาพเตรียมไว้ เพื่อเป็นการสร้างสวัสดิการให้แก่ตัวเอง นอกจากจะคุ้มครองตนเองแล้ว ยังส่งผลต่อคนรอบข้างด้วย 

เตรียมเงินสำรองฉุกเฉิน

เพราะในชีวิตของคนเรามักจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอยู่เสมอ ควรเก็บเงินออมส่วนนี้ไว้ด้วยโดยควรเพื่อไปอย่างน้อย 6 เดือน สำหรับในกรณีที่หากเกิดอะไรขึ้นจนไม่สามารถทำงานได้ จะต้องอยู่ได้อย่างน้อยๆ 6 เดือน

เริ่มต้นด้วยการทำรายรับรายจ่าย

การทำรายรับรายจ่ายเปรียบเสมือน บริษัทที่ต้องทำงบดุล งบกระแสเงินสด เพื่อให้บริษัทได้เห็นถึงทรัพย์สิน รายรับ รายจ่าย หนี้สิน เพื่อที่จะได้วางแผนการบริหารได้ถูก ส่วนบัญชีรายรับ รายจ่าย เพื่อที่จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของการใช้ชีวิตของเรา เช่น การใช้จ่ายหมดไปกับอะไร

เห็นสภาพคล่องของทางการเงินของเรา เพื่อให้ระวังตัวไม่ใช้จ่ายเกินตัวจนต้องนำเงินเก็บออกมาใช้ และช่วยให้เรามีวินัยมากยิ่งขึ้นเนื่องจากข้อมูลต่างๆเหล่านี้ต้องอาศัยวินัยในการหมั่นจดข้อมูลรายรับ รายจ่ายอยู่เสมอๆ

ไอเดีย การออกแบบเว็บไซต์ 2021 รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์-03

วางแผนภาษี

ภาษีเป็นเรื่องที่มีประโยชน์มากสำหรับคนทำงานฟรีแลนซ์ เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ ฟรีแลนซ์ ต้องไม่ลืม คือ การวางแผนภาษีที่ควรเตรียมตัวไว้ตั้งแต่ต้นปี ทั้งการเก็บหลักฐานแสดงรายได้ ตรวจสอบรายการลดหย่อนภาษีต่าง ๆ ซึ่งต้องละเอียดรอบคอบพอสมควร เพราะไม่ได้มีใครมาเตรียมข้อมูลบางส่วนให้เหมือนมนุษย์เงินเดือน อีกอย่างหากวางแผนไม่ดี อาจจะมีปัญหาโดนเรียกจ่ายภาษีย้อนหลังเอาได้ และสิ่งเดียวที่จะแสดงให้ธนาคารเห็นว่าฟรีแลนซ์มีรายได้จริง ๆ นั่นก็คือ หลักฐานทางภาษี ซึ่งจะช่วยยืนยันว่าฟรีแลนซ์มีรายได้ตลอดทั้งปี อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีประโยชน์ต่อการกู้คอนโด หรือซื้อบ้าน

การแบ่งเงินออกเป็นส่วนๆ

การที่มีรายได้ไม่แน่นอน ทำให้ชาวฟรีแลนซ์ต้องหาวิธีสร้างผลตอบแทนให้เงินเก็บของเรามากขึ้นด้วย โดยอาจแบ่งเงินบางส่วนที่ได้มาไปลงทุน เพื่อให้เงินก้อนนั้นงอกเงยกลับมาเป็นผลตอบแทนในอนาคต ดีกว่าเก็บเงินไว้เฉย ๆ โดยไม่ได้ทำอะไร ทั้งนี้ อาจจะกันเงินไว้ลงทุนอย่างน้อย 10% ของรายได้ ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้น ก็ขึ้นกับว่าแต่ละคนยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน ควรแบ่งเงินเป็น 3 ส่วน เป็นเทคนิค วิธีการออมเงิน ที่จะทำให้เรามีเงินเก็บง่าย และเป็นสัดเป็นส่วน

ส่วนที่หนึ่ง เป็นเงินสำหรับใช้จ่ายประจำในแต่ละเดือน เช่น กินอยู่ ค่ากิน ค่าผ่อนรถ ผ่อนคอนโดมิเนียม จ่ายหนี้บัตรเครดิต รวมถึงให้พ่อแม่ โดยเงินก้อนนี้จะใช้

ส่วนที่สอง เป็นเงินที่สร้างความสุขโดยเฉพาะ เช่น ทานอาหารนอกบ้าน ช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว รวมถึงค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ามือถือ เป็น

ส่วนที่สาม ส่วนนี้อาจจะเป็นเงินออมจริง ที่ได้มาแล้วไม่ใช้เลย และนำเงินนี้ไปใช้สนับสนุนเป้าหมายต่างๆ เช่น ใช้ยามเกษียณ ใช้ยามฉุกเฉิน โดยอาจจะนำไปฝากบัญชีออมทรัพย์ หรือ ซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ

หากใครที่กำลังทำงานฟรีแลนซ์ พ่อค้า แม่ค้า เป็นเจ้านายตัวเอง น่าจะรู้ว่ากว่าจะได้เงินมาแต่ละบาทนั้นต้องใช้พลังงานไปเท่าไหร่ ไม่สบาย ป่วย ทำงานไม่ได้ ก็ไม่ได้เงิน เพราะฉะนั้นต้องมีการวางแผนใหม่ๆ ตลอดเวลา ต้องมีวินัยมากกว่าพนักงานกินเงินเดือนกว่าหลายเท่า ซึ่งการวางแผนการเงิน และ วิธีการออมเงิน เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ยิ่งอายุเริ่มมากขึ้นก็มีความเสี่ยงมากไปเรื่อยๆ ควรจะเริ่มศึกษาเรื่องพวกนี้อย่างจริงจังก่อนที่จะสายไป