Data Driven Marketing คือ อะไร? มีประโยชน์อย่างไร ต่อการวางแผนการตลาด SGEPRINT มีคำตอบ พร้อมเผยหลักการทำดาต้าเบื้องต้น ใครอยากรู้ว่า จะเก็บและวิเคราะห์ดาต้าอย่างไร ให้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ ในธุรกิจของตนเองได้แล้วละก็ ตามมาดูกันเลย

Data Driven Marketing คือ

Data Driven Marketing

Data Driven Marketing คือ การนำข้อมูล มาใช้ในการขับเคลื่อน และ กำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด โดยการเก็บข้อมูลจากผู้บริโภค มาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ทั้งในด้านพฤติกรรม และ สถิติที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค ตั้งแต่กระบวนการคิด ไปจนถึง การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า จะได้สามารถกำหนดแคมเปญ หรือ โฆษณา ที่จะสามารถสื่อสารไปถึงลูกค้าได้ตรงจุด ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น

Data Driven Marketing มีประโยชน์อย่างไร

Data Driven Marketing คือ

1. ตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำขึ้น

ดั่งที่พิชัยสงครามซุนวูว่าไว้ “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” หากคุณรู้ข้อมูลของลูกค้า ก็เหมือนดั่งมีข้อมูลของข้าศึก ย่อมทำให้ง่ายต่อการวางแผนเพื่อรบเอาชัยชนะ ยิ่งมีข้อมูลที่ละเอียดมาก ตั้งแต่กระบวนการคิด ไปจนถึง การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า เท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้วางกลยุทธ์ได้ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น จากสถิติ พบว่า นักการตลาดมากกว่า 76% ตัดสินใจโดยใช้ Data หรือ ข้อมูล ดังนั้น หากคุณอยากวางกลยุทธ์ทางการตลาดได้ดี เหมือนนักการตลาดแถวหน้าแล้วละก็ ควรเรียนรู้จักการใช้ Data ตั้งแต่ตอนนี้เลย

2. เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค

การเก็บข้อมูล ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้นว่า เขาชอบอะไร ต้องการอะไร ทำไมถึงเข้ามาเยี่ยมชม หรือ ตัดสินใจซื้อสินค้า ซึ่งการทำความเข้าใจในจุดนี้ จะช่วยให้นักธุรกิจรู้จักพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาด ที่ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้า จนสามารถสร้างลูกค้า หรือ เปลี่ยนลูกค้าขาจร ให้กลายเป็นลูกค้าขาประจำได้ ทั้งนี้ การเก็บข้อมูล ไม่ควรเน้นแต่รายละเอียดในภาพรวม แต่ควรเน้นรายละเอียดปลีกย่อย โดยเฉพาะการตัดสินใจยิบย่อยของลูกค้าด้วย เพราะจะเป็นตัวสะท้อนพฤติกรรมที่ซ่อนอยู่ในการตัดสินใจซื้อ ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น

3. ลดค่าใช้จ่ายในการทำการตลาด

เพราะค่า Ads โฆษณา ในปัจจุบันแพงมาก ไม่ว่าจะเป็น Facebook Ads หรือ Google Ads หากมัวแต่ยิงแอดทดสอบ ก็อาจทำให้คุณต้องเสียเงินมหาศาล ก่อนที่จะสามารถสร้างยอดขายได้ ดังนั้น หากคุณมี Data ที่จะบอกได้ว่า ลูกค้าของคุณคือใคร กลุ่มเป้าหมายอยู่ระหว่างช่วงอายุเท่าไหร่ เป็นเพศชาย หรือ เพศหญิง ชอบ Ads แบบรูปภาพ หรือ วิดีโอ มากกว่ากัน ย่อมทำให้คุณสามารถที่จะลดค่าแอดโฆษณา ลดค่าใช้จ่ายในการทำการตลาด สามารถสร้างยอดขาย ได้กำไรเพิ่มมากขึ้น นั่นก็เพราะมีฐานข้อมูล ที่จะช่วยให้ยิงแอดได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นนั่นเอง

4. พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการตลาด

หลายคนมักตกม้าตายในการทำธุรกิจ เพราะคิดว่าขายอันนี้ มีคนซื้อแน่ ๆ หรือว่า ผลิตอะไรขึ้นมาก็มีคนซื้อ ทั้ง ๆ ที่สิ่งของนั้น อาจไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้า หรือ ผู้บริโภคต้องการแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ของบางอย่าง ถึงแม้จะสวยงาม หรือ มีราคาถูกอย่างไร ก็ไม่มีคนซื้ออยู่ดี ดังนั้น หากคุณไม่อยากเสียเงิน ลงทุนไปกับของที่ขายไม่ได้ หรือ ผลิตขึ้นมาแล้วไม่มีคนซื้อแล้วละก็ ควรเก็บข้อมูลความต้องการของลูกค้า ว่าเขาต้องการอะไร ชอบสินค้าแบบไหนบ้าง ผลิตภัณฑ์แบบไหนที่จะช่วยให้ชีวิตของเขาดีขึ้น จะได้สามารถจัดหาสินค้าที่มีความต้องการ มาขายได้จริง ๆ หรือ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถแก้ไขปัญหา ทำให้ชีวิตของลูกค้ามีความสุขมากขึ้น

5. รักษาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าให้มีความยั่งยืน

แบรนด์ หรือ ธุรกิจของเราจะอยู่รอด และ มีความยั่งยืนได้ ก็ต่อเมื่อมีลูกค้าประจำ ที่คอยมาอุดหนุน ซื้อของสม่ำเสมอ ดังนั้น การเก็บข้อมูลความพึงพอใจ หรือ ข้อตำหนิเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีต่อแบรนด์ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะได้รักษามาตรฐานสินค้าและบริการ ตลอดจนนำข้อตำหนิเหล่านั้น มาปรับปรุงแก้ไข พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าประจำมีความซื่อสัตย์ต่อแบรนด์ ในขณะเดียวกัน ก็อาจจะเปลี่ยนให้ลูกค้าขาจร กลายมาเป็นลูกค้าประจำได้อีกด้วย

หลักการทำ Data เบื้องต้น

Data Driven Marketing คือ

สำหรับใครที่อยากใช้ Data Driven Marketing ในการทำการตลาด แล้วอยากรู้ว่า ต้องทำ Data อย่างไร เรามีหลักการทำ Data เบื้องต้น มาฝาก ซึ่งวิธีการนี้เราเรียกว่า Data Analytics ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ

1. Descriptive Analytics (เกิดอะไรขึ้น)

บรรยายสถานการณ์ของธุรกิจ หรือ บริษัทว่า เกิดอะไรขึ้น ณ ปัจจุบัน โดยอาจเปรียบเทียบผลงานปัจจุบันกับผลงานในอดีต เพื่อให้ทราบว่า ดีขึ้น หรือ แย่ลงอย่างไร ตัวอย่างเช่น

ยอดขาย Quarter ล่าสุดตกลง เมื่อเทียบกับ Quarter ก่อนหน้านี้

2. Diagnostic Analytics (ทำไมถึงเกิดขึ้น)

รวบรวมข้อมูลแล้ววิเคราะห์ว่า เพราะอะไร ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เป็นการหาสาเหตุ เพื่อให้เห็นต้นตอของปัญหา เช่น หากยอดขาย Quarter ล่าสุดตกลง เมื่อเทียบกับ Quarter ก่อนหน้านี้เกิดขึ้น ก็อาจเป็นเพราะ

มีคู่แข่งใหม่เข้ามา ทำให้เสียส่วนแบ่งทางการตลาดไป หรือ คู่แข่งขายตัดราคา ทำให้มีลูกค้าซื้อน้อยลง

3. Predictive Analytics (จะเกิดอะไรต่อไป)

ทำการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ว่า อะไรคือสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นกับธุรกิจของเราในอนาคต เพื่อหาความเป็นไปได้ จะได้เตรียมแผนรับมือได้ถูกต้อง

หลังจากดูแนวโน้มแล้ว พบว่า Quarter หน้าจะเป็นช่วง High Season สำหรับธุรกิจของเรา

สถานการณ์ COVID-19 ในประเทศดีขึ้น เริ่มมีมาตรการคลาย Lock Down บ้างแล้ว

ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่เราจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้ และ เติบโตขึ้นได้ไปอีก

4. Prescriptive Analytics (อะไรคือสิ่งที่ต้องทำ)

วิเคราะห์เชิงแนะนำ เพื่อหาว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องทำ จะได้สามารถแก้ไขสถานการณ์ ทำให้ธุรกิจเดินหน้า และ เติบโตต่อไปได้

เพิ่มงบประมาณด้านการตลาด เพื่อหาลูกค้าใหม่ ๆ จากแนวโน้มของประชาชน ที่จะออกมาจับจ่ายใช้สอย และ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศมากขึ้น

จัด Offer ที่ลูกค้าไม่สามารถปฏิเสธ เพื่อให้สามารถขายสินค้าได้ในราคาเดิม โดยไม่ต้องลดราคา

เก็บ Data ของลูกค้าได้จากช่องทางไหนบ้าง

Data Driven Marketing

ปัจจุบัน คุณสามารถเก็บข้อมูลลูกค้า จากช่องทางต่าง ๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นใน เว็บไซต์ ด้วยการติดตั้งคุกกี้ (Cookies) ใน Facebook ด้วย Facebook Pixels หรือแม้แต่พัฒนาระบบ CRM ติดตั้งในระบบหลังบ้านของบริษัท เพื่อช่วยติดตามและเก็บข้อมูลลูกค้า ทำให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจ ตลอดจนสามารถนำไปต่อยอด ทำ Email Marketing และ Marketing Automation

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในพ.ศ. 2562 มีการออกพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA (Personal Data Protection Act) ซึ่งเป็นกฎหมายว่าด้วยการให้สิทธิ์กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองให้ปลอดภัย และ จะให้ผู้อื่นนำเอาข้อมูลของตนเองไปใช้ได้ ต่อเมื่อได้รับคำยินยอมหรือคำอนุญาต จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น

ดังนั้น หากคุณจะเก็บ Data ของลูกค้า ไม่ว่าจากช่องทางใดก็ตาม ต้องขออนุญาต หรือ ได้รับความยินยอม จากเจ้าของข้อมูลด้วย ห้ามละเมิดสิทธิ หรือ นำข้อมูลลูกค้าไปใช้ในทางที่ผิดเด็ดขาด มิเช่นนั้น อาจจะถือว่าทำผิดกฎหมายได้

เพราะ Data ทำให้คุณได้เปรียบในการวางแผนการตลาด ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค จนสามารถวางกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำขึ้น ดังนั้น หากใครอยากทำการตลาด ด้วยวิธี Data Driven Marketing แล้วละก็ ลองนำหลักการทำดาต้าเบื้องต้น และ การเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้า จากช่องทางต่าง ๆ ที่ SGEPRINT นำมาฝาก ไปลองปรับใช้กันดูได้เลย รับรองว่า จะช่วยให้คุณสามารถทำการตลาดได้ตรงจุด ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้นได้อย่างแน่นอน พร้อมสร้างรายได้ให้กับธุรกิจของคุณได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

บทความที่น่าสนใจ