E-Learning คือ ระบบการศึกษาแบบออนไลน์ มีบทบาทมาตั้งแต่โลกทั้งใบ เชื่อมต่อด้วยอินเตอร์เน็ต ยิ่งเมื่อมีโรคระบาดที่ทำให้คนต้องอยู่บ้านมากขึ้น การเรียนรู้และการศึกษาผ่านอินเตอร์เน็ต ก็เริ่มเข้ามาแทนที่การเรียนในระบบโรงเรียน จนอาจกลายเป็นรูปแบบการศึกษาแห่งอนาคต
SGE จึงจะพามารู้จัก ว่าแท้จริง ระบบ E-Learning คือ อะไร และจะมีประโยชน์ต่อคน ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอย่างไรสารบัญ
ระบบ E-Learning คือ ?
E-learning คือ การศึกษาเรียนรู้ผ่านสื่อกลางที่เป็นระบบเทคโนโลยี เช่น อินเตอร์เน็ต สัญญาณดาวเทียม ที่จะช่วยให้การเรียนการสอน สามารถเกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเจอกัน เหมือนในระบบโรงเรียนปกติ ลดข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่เรียน ให้การศึกษาเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา ทั้งยังเข้าถึงได้ทุกคน ซึ่งอุปกรณ์ที่เข้าถึงระบบการเรียนแบบ E-learning ได้ เช่น โทรศัพท์ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต โน๊ตบุค เป็นต้น
อะไรบ้างที่เป็น E-learning เช่น
- คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
- การสอนบนเว็บไซต์
- การเรียนออนไลน์
- การเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม
การใช้ E-learning ในระบบการศึกษา
ด้วยระบบ E-Learning ที่สามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่จำกัดเพศ วัย และมีความรู้มากมาย ให้สามารถเลือกเรียนได้ไม่จำกัด บ่อยครั้ง นอกจากเพื่อส่งเสริมรูปแบบการเรียนการสอนภายในโรงเรียนแล้ว ยังเอื้ออำนวยต่อบุคคลทั่วไปและบริษัท องค์กรใหญ่ ๆ ในการพัฒนาศักยภาพของตนเองและบุคคลในองค์กรอีกด้วย มาดูกันว่า E-Learning ถูกนำไปใช้โดยแต่ละภาคส่วน อย่างไรบ้าง
1. บุคคลทั่วไป
โดยปกติ เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว อาจจะมัวยุ่งแต่กับการทำงาน จนไม่มีเวลาว่าง ทำให้หากจะเรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง อาจจะต้องเรียนรู้หลังเวลาทำงาน หรือ เวลาที่สะดวก การเรียนรู้ผ่านระบบ E-Learning จึงถือเป็นวิธีการที่สะดวกมาก ๆ ซึ่งเป้าหมายส่วนใหญ่ของบุคคลทั่วไปที่ลงเรียน E-Learning ก็คือ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ เกี่ยวกับทักษะที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน หรือ ศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ เพื่อเปลี่ยนสายงาน
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่แล้ว การเลือกวิชาในระบบ มักเลือกอย่างเสรี ไม่มีการกำหนดแน่นอนว่า ต้องเรียนอะไร ขึ้นอยู่กับความสนใจของผู้เรียนล้วน ๆ ส่วนการจัดสรรเวลาเรียน ก็ขึ้นอยู่กับเวลาว่างของแต่ละคนเช่นกัน ไม่มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอน อย่างไรก็ตาม E-learnig ถือว่าได้รับความสนใจมาก จากบุคคลทั่วไปในระยะหลัง เนื่องจากตลาดแรงงานต้องการทักษะเฉพาะทางมากขึ้น ทำให้บุคคลทั่วไปสนใจที่จะศึกษาทักษะใหม่ ๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้ ก็เพื่อให้มีความรู้ความสามารถสอดคล้องกับตลาดแรงงานนั่นเอง
2. องค์กร
เพราะทรัพยากรมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ในการพัฒนาองค์กร หลายบริษัทและองค์กรใหญ่ ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน จึงได้ส่งเสริมให้พนักงานเรียนรู้ผ่านระบบ E-learning เพื่อเพิ่มความสามารถและประสิทธิภาพในการทำงานของแต่ละคนให้มากขึ้น อันจะเป็นผลพลอยได้ ที่ช่วยส่งผลให้บริษัทและองค์กรเติบโตก้าวหน้าได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว การเรียนรู้ก็จะมีเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจงไป ตามลักษณะการทำงานของแต่ละบุคคล หรือ หน่วยงานในองค์กรนั้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นทักษะ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน และผู้ที่ทำการสอนเองนั้น ส่วนใหญ่ก็มาจากวงการนั้น ๆ โดยเฉพาะ เช่น
- การใช้งาน Microsoft Office
- การตลาดออนไลน์
- การออกแบบพื้นฐาน
เมื่อเรียนจบแล้ว ผู้เรียนจึงสามารถนำเอาความรู้นั้นไปใช้ในสายงานได้จริง นอกจากนี้ หากพนักงานคนไหนทำงานได้ดีขึ้น โอกาสที่จะได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้น ก็มีโอกาสตามไปด้วย
3. สถานศึกษา
ที่ผ่านมา สถานศึกษาได้นำ E-learning มาใช้ในการเรียนการสอนบ้างแล้ว โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ซึ่งได้นำหลักสูตรบางหลักสูตร เปิดให้นักศึกษาและคนที่สนใจ ได้ลงทะเบียนเรียน แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ก็ทำให้มหาวิทยาลัยตลอดจนโรงเรียนหลายแห่ง เปิดการเรียนการสอนแบบ E-learning เต็มตัว ซึ่งก็พอทดแทนการเรียนในห้องเรียนได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม ด้วยอายุและวัยของเด็กที่ยังคงอยู่ในช่วงเติบโต จำเป็นต้องถูกขัดเกลาและมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง การเรียนในระบบ E-learning ทดแทน 100 เปอร์เซ็นต์ จึงอาจไม่เหมาะสมกับเด็กในวัยนี้มากนัก จึงควรเป็นในรูปแบบของการผสมผสาน มากกว่าใช้เรียนแทนระบบห้องเรียนทั้งหมด
ระบบ E-learning มีประโยชน์อย่างไร?
ถึงแม้การเรียนการสอนในห้องเรียนยังคงมีความสำคัญ เพราะทำให้ผู้เรียนได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น สร้างทักษะด้านนิสัย บุคคลิกภาพ และสภาพจิตใจ ให้ดีขึ้น แต่ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา สถานที่ และต้นทุนในชีวิตที่คนเรามีไม่เท่ากัน ระบบ E-Learning จึงเข้ามามีบทบาทในส่วนนี้ โดยข้อดีของการเรียนรู้ผ่านระบบ E-Learning ได้แก่
1. เข้าถึงได้ทุกคน แม้อยู่ที่ห่างไกล
ขอเพียงสัญญาณอินเตอร์เน็ตและดาวเทียมไปถึง ทุกคนก็สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ ไม่ว่าจะอยู่บนเขาหรือในชนบทที่ห่างไกล ช่วยลดข้อจำกัดด้านระยะทาง ให้ทุกคนสามารถเรียนได้แม้อยู่ที่บ้าน หากคนไหนมีบ้านที่อยู่ไกลโรงเรียน ก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลเพื่อมาเรียนอีก หรือคนที่ไม่มีเงินเรียนก็สามารถเข้าถึงได้ หากเป็นคอร์สที่มีการถ่ายทอดให้เรียนฟรี
2. เรียนได้ตลอดทั้งชีวิต
คอร์สบางคอร์ส หากซื้อและลงเรียนแล้ว อาจจะได้สิทธ์สามารถเรียนได้ตลอดทั้งชีวิต นั่นจึงทำให้คุณสามารถกลับไปเรียนเมื่อไหร่ หรือเรียนกี่รอบก็ได้ไม่จำกัด ถ้าหลงลืมก็สามารถเข้าไปทบทวน เรียนรู้ได้ตลอด ต่างจากการเรียนแบบระบบปกติ ที่หากหลงลืมหรือไม่เข้าใจแล้ว จะไม่สามารถเรียนรู้ใหม่กับผู้สอนได้อีก ต้องกลับไปเรียนรู้ด้วยตัวเองเท่านั้น
3. เลือกเรียนในหัวข้อที่ตนเองงสนใจ
บ่อยครั้งที่คนทั่วไปมักบ่นว่า เรียนไปทำไม ไม่ได้ใช้ ปัญหานี้จะหมดไป หากเรียนด้วยระบบ E-Learning เพราะปัจจุบัน มีคอร์สที่เปิดสอนในความรู้หลากหลายแขนงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจิตวิทยา เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงงานช่างแขนงต่าง ๆ ให้เลือก จึงสามารถศึกษาได้อย่างไม่จำกัด ตลอดจนสามารถเพิ่มพูนความรู้ในด้านที่ตนเองสนใจได้ตลอด
4. เรียนได้ แม้ไม่มีความรู้หรือเกรดการเรียนไม่ดี
บ่อยครั้งที่วิชาในระดับมหาวิทยาลัย มักจะมีข้อจำกัดว่าต้องมีพื้นฐานความรู้ด้านนี้ หรือเกรดเท่านี้มาก่อน ถึงจะเข้าเรียนหรือลงเรียนได้ แต่สำหรับระบบ E-Learning เปิดกว้างมาก ขอเพียงแค่มีเงินพอซื้อคอร์สเรียนได้ ระบบก็จะให้โอกาสทุกคนได้เรียนรู้และศึกษา ไม่ว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหนก็ตาม ที่สำคัญ ไม่มีใครมาคอยตัดสินคุณ เหมือนเมื่ออยู่รวมกันในห้องเรียน ทำให้สามารถเรียนรู้ได้อย่างสบายใจ ถือเป็นอีกหนึ่งข้อดีที่ไม่ควรมองข้าม
5. สัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้แบบใหม่
ด้วยการเรียนการสอนผ่านอินเตอร์เน็ต ทำให้สื่อการเรียนการสอน ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การพูดหรือการเขียนให้จดตาม แต่ยังสามารถสอดแทรกวิดีโอ หรือ ภาพกราฟฟิก ที่ทำให้การเรียนการสอนมีความน่าสนใจมากขึ้น ผู้เรียนจึงอาจได้สัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้แบบใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้สามารถเรียนได้สนุกและเข้าใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม จะได้สัมผัสมากแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการนำเสนอ รูปแบบการสอนของครูผู้สอนแต่ละบุคคล
E-Learning กับโลกในอนาคต
เทคโนโลยียังคงก้าวหน้า ตราบใดที่โลกมนุษย์ยังคงหมุนอยู่ ดังนั้น จึงเชื่อเหลือเกินว่า E-learning จะยังคงมีบทบาทสำคัญในฐานะระบบการศึกษาที่มนุษย์ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ อย่างไรก็ดี แม้ว่าการศึกษาวิธีนี้ จะสามารถส่งเสริมให้ทุกคนสามารถมีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น แต่สำหรับเด็กและวัยรุ่นที่กำลังอยู่ในวัยเรียนรู้ สิ่งหนึ่งที่ไม่อาจทดแทนได้ ก็คือ การเติบโตของร่างกายและจิตใจ ที่ยังคงต้องพิ่งพิงและขัดเกลาผ่านการเข้าสังคมและปฏิสัมพันธ์โดยตรงระหว่างมนุษย์กับมนุษย์
ดังนั้น การเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์จะมีมากขึ้นอย่างแน่นอน แต่ก็ควรให้เขาได้รับการศึกษาทางด้านนิสัย บุคลิกภาพ และการเข้าสังคมด้วย เพราะการเรียนรู้ผ่าน E-learning อาจทำให้มีอาชีพและชีวิตที่ดีขึ้น แต่หากได้เรียนรู้ความเป็นมนุษย์ผ่านมนุษย์ด้วยกัน นั่นก็จะทำให้เขาเป็นมนุษย์ในแบบที่ควรจะเป็นได้ตลอดไป