Google Analytics คือ เครื่องมือวิเคราะห์เว็บฟรี ของ Google เพื่อช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ของลูกค้า เก็บสถิติข้อมูลลูกค้า โดย Google Analytics (GA) สามารถให้เราทราบว่าลูกค้าของเรามีพฤติกรรมอย่างไร เช่น อายุเท่าไหร่ เข้ามาจากช่องทางไหน เช่น ช่องทาง Facebook Line Youtube ฯลฯ เข้าเว็บไซต์เราผ่านทางไหน มือถือ แท็บเล็ต หรือ PC
จุดเด่นของ Google Analytics คือ
– ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ติดตั้งง่าย ใช้เวลาเพียง ไม่เกิน 5 นาทีก็สามารถใช้งานได้แล้ว
– เชื่อมต่อเข้ากับ Google Ads ได้ง่าย สามารถนำไปใช้ ทำการตลาด วิเคราะห์ข้อมูล หรือ ยิง Ads ต่อได้ง่าย เช่น นำไป Remarketing ต่อโดยอาศัยข้อมูลของผู้ที่เข้าเว็บล่าสุด เพื่อให้โฆษณาตามหลอกหลอน
– ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาด เช่นเอาข้อมูลที่ได้ไปทำ Custom Audience ทำให้การยิง Ads ของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
– วิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ เนื่องจาก GA สามารถเชื่อมกับบริการอื่นๆ ได้เช่น Google Data Studio
ทำให้เราอ่าน Report ได้อย่างง่ายดาย และมี UX UI ที่ใช้งานง่ายอีกด้วย
Google Analytics ทำงานอย่างไร
เราสามารถนำ Code ที่ได้จาก Google Analytics ไปใส่ในเว็บไซต์ของเรา โดย Code เหล่านี้จะบันทึกกิจกรรมต่างของผู้ใช้งานเว็บไซต์ของเรา พร้อมคุณลักษณะต่างๆ เช่น อายุ เพศ ความสนใจ ฯลฯ จากนั้นจะส่งข้อมูลเหล่านั้นไปยัง เซิร์ฟเวอร์ GA (Google Analytics) เมื่อผู้ใช้งานได้ออกจากเว็บไซต์
โดยที่ Google Analytics จะรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมจากเว็บไซต์ของเรา มี 4 แบบ
1. User level (จะเกี่ยวข้องกับ “การกระทำ” ของผู้ใช้แต่ละคน)
2. Session level (การเยี่ยมชมในแต่ละครั้ง)
3. Pageview level (แต่ละหน้าที่ผู้เยี่ยมชมเข้าไป)
4. Event level (การคลิกปุ่ม ,การดูวิดิโอ ฯลฯ)
ความหมายสำคัญๆ ใน GA / การอ่าน Google Analytics เบื้องต้น
เราสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปต่อยอดได้มากมาย เช่น วางกลยุทธ์ด้าน การตลาดออนไลน์
1. Pageviews คือ “จำนวนครั้งที่มีการเข้าชม” หรือจำนวนครั้งที่เว็บ ถูกเปิดใช้งานบนเว็บไซต์ โดยจะถูกนับทุกครั้งที่มีคนเข้ามาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้ใช้ใหม่ หรือผู้ใช้เก่า
2. Users คือ “จำนวนของคน” ที่เข้ามาในเว็บไซต์ของเรา ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเข้ามาที่เว็บไซต์กี่ครั้ง หรือเคยเข้ามาแล้วครั้งหนึ่ง เช่น A เข้ามาในเว็บไซต์ของคุณ แล้วเปิดหน้าเว็บของคุณไปอีกสัก 5-6 ครั้ง แล้วกลับมาเปิดใหม่ในวันต่อมา เราจะถือว่า Users นี้ถูกนับเป็น 1 เท่านั้น โดยจะสามารถเป็นได้ทั้ง New User และ Returning user
Google จะใช้วิธีการนับ User โดยการฝัง Cookie ไว้ที่ตัว Browser ของอุปกรณ์ นั้นๆ ในการเก็บข้อมูล
3. Sessions หรือชื่อเดิมคือ Visit เพิ่มระดับความยากขึ้นมาอีกนิด Sessions คือสิ่งที่คนคนหนึ่งกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่บนหน้าเว็บไซต์ในระยะเวลาหนึ่ง สมมุติว่าคุณเปิด Google Analytics แล้วมันแสดงสถิติว่ามี 10,000 Session หมายความว่ามีการเปิดเว็บไซต์ของคุณทั้งหมด 10,000 ครั้ง ทั้ง User และ Metric นั้นจริงๆแล้วมันไม่สามารถบันทึกได้อย่างถูกต้องแม่นยำ 100% เราควรดู Users ประกอบด้วย
4. Bounce Rate คือเปอร์เซ็นของคนที่เข้ามาในเว็บไซต์เพียงแค่หน้าเดียว และกดออกโดยไม่ไปคลิกหน้าอื่นๆ ต่อ โดย Bounce Rate ที่ดีควรมีค่าน้อย หรือไม่ควรรเกิน 70%
5. Exit อัตราการออก คือ เปอร์เซ็นต์ที่หน้าเพจนั้นเป็นหน้าสุดท้ายของ Session ก่อนที่ Session นั้นจะกดปิดออกจากเว็บไซต์เมื่อมีคนเข้ามาหน้า A แล้วกดออกเลย Exit จะเป็น 100% เช่น
เมื่อมีคนเข้ามาหน้า A แล้วคลิกไปหน้า B แล้วกดออก Exit จะนับเป็น 50%
เมื่อมีคนเข้ามาหน้า A แล้วคลิกไปหน้า B, C แล้วกดออกที่หน้า D Exit จะนับเป็น 25%
ทั้ง Bounce Rate และ Exit ไม่จำเป็นต้องมี % น้อยเสมอไปถึงดี เพราะเว็บไซต์บางหน้า อาจให้ข่าวสารเพียงแค่หน้าเดียว หรือเป็นประกาศสั้นๆ ก็มีโอกาสที่ Bounce Rate และ Exit จะสูงได้เป็นเรื่องปกติ
6. Average Session Duration คือช่วงเวลาเฉลี่ยของ Session ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ข้อมูลเหล่านี้อาจะไม่ได้มีความสำคัญมากเท่าข้อต่อไปนี้
7. Average Time on Page คือช่วงเวลาเฉลี่ยที่ User ใช้งานเว็บไซต์หน้านั้นๆ ถ้าเวลาเฉลี่ยในหน้านั้นเยอะ แสดงว่า User ให้ความสนใจกับเนื้อหาในหน้านั้นๆ
วันนี้ Google Analytics คือ อะไร ตามที่ได้อธิบายไปข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าข้อมูลใน Google Analytics นั้น สามารถนำไปต่อยอดได้มากมาย เราสามารถรู้ได้ว่าลูกค้าของเราเป็นใคร อายุเท่าไหร่ มาจากไหน ใช้อุปกรณ์อะไร เราสามารถนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้า อีกทั้งนำข้อมูลเหล่านั้นมาทำการวัดผล ทำ KPI เป็นเกณฑ์ สำหรับ Digital Marketing ได้ ทำให้เรารู้ว่าเม็ดเงินที่ลงได้สำหรับโฆษณานั้นคุ้มค่ากับที่ลงทุนไปหรือไม่ ผลลัพธ์ผ่านเกณฑ์ที่ตั้งไว้หรือไม่ เช่น จำนวน Impression , Ctr, Click ฯลฯ